
6 กิจกรรมที่ต้องทำ เมื่อไปญี่ปุ่นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี
เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ญี่ปุ่นก็กลายเป็นแกลเลอรีธรรมชาติขนาดใหญ่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ส้ม เหลือง สวยสดราวกับภาพวาด สำหรับสายเที่ยว นี่คือช่วงเวลาทองที่ห้ามพลาด ไม่ใช่แค่ชมวิว แต่ยังมีกิจกรรมน่าสนุกอีกเพียบที่ทำให้ทริปใบไม้เปลี่ยนสีในญี่ปุ่นน่าจดจำกว่าครั้งไหนๆ และบรรยากาศในช่วงนี้ก็เย็นสบาย ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไปอีกด้วย ใครที่เป็นสายถ่ายรูปอย่าลืมเตรียมเสื้อผ้าสวยๆ กับกล้องตัวโปรดมานะคะ
1. ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีตามแหล่งธรรมชาติชื่อดัง

เมื่อฤดูใบไม้ร่วงมาเยือน ญี่ปุ่น จะกลายสภาพเป็นผืนผ้าใบขนาดมหึมาที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีแดง ส้ม เหลืองสดใส การเดินเล่นใต้ร่มเงาของต้นเมเปิ้ล ท่ามกลางใบไม้สีเพลิงที่ร่วงหล่นปลิวไสวไปตามลม คือบรรยากาศชวนฝันที่หาจากที่ไหนไม่ได้ง่าย ๆ และยังเป็นโอกาสทองสำหรับสายถ่ายรูป ไม่ว่าจะเป็นสะพานไม้เก่าแก่ วัดโบราณ หรือริมแม่น้ำ ทุกมุมล้วนกลายเป็นฉากหลังสุดพิเศษได้ทันที
แหล่งชมวิวห้ามพลาด:
อาราชิยามะ (Arashiyama) เกียวโต: สัมผัสความงามของป่าไผ่สูงเสียดฟ้าที่แทรกตัวอยู่กับสีสันของใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมเยี่ยมชมวัดเก่าแก่รอบบริเวณ
ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko): ตื่นตาตื่นใจกับภาพภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่าน เคียงคู่กับใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามที่สะท้อนลงบนผืนน้ำใสราวกับกระจก
นิกโก้ (Nikko): เมืองมรดกโลกที่เต็มไปด้วยวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ ผสมผสานกับธรรมชาติที่แต่งแต้มด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วงอย่างลงตัว
โทโฮคุ (Tohoku): สัมผัสความบริสุทธิ์ของธรรมชาติในภูมิภาคทางตอนเหนือ ที่นี่มีทิวทัศน์ของใบไม้เปลี่ยนสีที่อุดมสมบูรณ์และงดงามจับตา
2. นั่งรถไฟสายโรแมนติก: ชมวิวใบไม้เปลี่ยนสีสุดฟิน!

ประสบการณ์สุดพิเศษกับการ นั่งรถไฟสายโรแมนติก ที่จะพาคุณลัดเลาะไปตามหุบเขา ชมวิวธรรมชาติอันงดงามที่ถูกแต่งแต้มด้วยสีสันของฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งแดง ส้ม เหลือง ราวกับหลุดเข้าไปในฉากอนิเมะโรแมนติก
Sagano Romantic Train (ซางาโนะ โรแมนติก เทรน) ในเกียวโต: รถไฟขบวนเล็กๆ ที่วิ่งเลียบแม่น้ำ Hozugawa คุณจะได้ชมวิวทิวทัศน์ของป่าเขาและแม่น้ำที่งดงามตลอดสองข้างทาง โดยเฉพาะช่วงใบไม้เปลี่ยนสี บรรยากาศจะยิ่งชวนฝันเป็นพิเศษ
Torokko Train (โทโรคโกะ เทรน) ในคุโรเบะ: รถไฟสายเก่าแก่ที่จะพาคุณเจาะลึกเข้าไปในหุบเขาคุโรเบะ ชมธรรมชาติที่ยังคงความบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ คุณจะได้สัมผัสลมเย็นๆ และสูดอากาศบริสุทธิ์ไปพร้อมกับดื่มด่ำกับทัศนียภาพของใบไม้หลากสี
3. แช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติ

การแช่ออนเซ็นกลางแจ้ง ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่น ลองนึกภาพ คุณกำลังแช่ตัวในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติอุ่นๆ ไอหมอกจางๆ ลอยอ้อยอิ่ง ท่ามกลางทิวทัศน์ของ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่แต่งแต้มไปด้วยสีแดง ส้ม เหลืองสดใสรอบตัว และเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพักผ่อน เติมพลัง และซึมซับความเงียบสงบของฤดูใบไม้ร่วงอย่างแท้จริง
แหล่งออนเซ็นยอดนิยม :
คุซัตสึออนเซ็น (Kusatsu Onsen): หนึ่งในสามออนเซ็นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพน้ำและบรรยากาศเมืองออนเซ็นที่คึกคัก
โจซังเค (Jozankei): ออนเซ็นยอดนิยมใกล้ซัปโปโร ที่คุณจะได้แช่น้ำร้อนไปพร้อมกับชมความงามของหุบเขาที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสี
นิวโตะออนเซ็น (Nyuto Onsen): บ่อน้ำพุร้อนที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ให้คุณได้สัมผัสเสน่ห์ของออนเซ็นแบบดั้งเดิมอย่างแท้จริง
การแช่ออนเซ็นกลางธรรมชาติช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ไม่ใช่แค่การผ่อนคลาย แต่คือการดื่มด่ำกับศิลปะจากธรรมชาติอย่างเต็มที่
4. ลิ้มรสอาหารฤดูใบไม้ร่วง: เมนูต้องห้ามพลาดเมื่อไปญี่ปุ่น

เมื่อลมหนาวพัดมาเยือน ฤดูใบไม้ร่วง ของญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ แต่ยังเป็นช่วงเวลาทองของนักชิม! เพราะนี่คือฤดูที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์เป็นพิเศษ วัตถุดิบสดใหม่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยที่หาทานยากในฤดูอื่น ๆ ลองนึกภาพการได้ทานเมนูแสนอร่อยในอากาศเย็นสบายสิ ฟินขึ้นสิบเท่าแน่นอน
เมนูเด็ดที่ห้ามพลาด:
เห็ดมัตสึตาเกะย่าง: ไม่ใช่แค่เห็ดธรรมดา แต่คือ ราชาแห่งเห็ด ของญี่ปุ่น! ด้วยกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การนำมาย่างจะดึงความหอมหวานออกมาได้อย่างเต็มที่ ใครได้ลองเป็นต้องติดใจ
ปลาซันมะย่าง: ปลาเนื้อแน่นๆ ที่จะหาทานได้เฉพาะช่วงใบไม้ร่วงเท่านั้น มักนำมาย่างเกลือจนหนังกรอบ เนื้อในชุ่มฉ่ำ เป็นรสชาติแห่งฤดูที่คนญี่ปุ่นโปรดปราน
เกาลัดญี่ปุ่น: อร่อยได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ อบร้อนๆ หวานมัน หรือนำไปทำเป็น ขนมหวาน และเป็นส่วนผสมในอาหารต่างๆ ก็ให้รสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์
มันหวานเผาร้อนๆ: ของว่างสุดคลาสสิกที่ให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศเย็นๆ เนื้อนุ่ม หวานธรรมชาติ แค่ได้กลิ่นหอมๆ ก็ชวนให้นึกถึงฤดูใบไม้ร่วงแล้ว
5. เดินตลาดเช้า-เมืองเก่า: สัมผัสเสน่ห์ญี่ปุ่นดั้งเดิม

อยากสัมผัสชีวิตญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องลอง เดินตลาดเช้า หรือเดินเล่นใน ย่านเมืองเก่า นี่ไม่ใช่แค่การเดินช้อปปิ้ง แต่คือการดำดิ่งสู่เสน่ห์และกลิ่นอายญี่ปุ่นโบราณ คุณจะได้เห็นวิถีชีวิตผู้คน สัมผัสบรรยากาศที่เงียบสงบแต่มีชีวิตชีวา และค้นพบของฝากทำมือสุดพิเศษจาก ช่างฝีมือท้องถิ่น หรือจะแวะจิบชาอุ่นๆ ในร้านกาแฟสไตล์ญี่ปุ่นโบราณก็เพลินไม่แพ้กัน
เมืองแนะนำที่ห้ามพลาด:
ทาคายาม่า (Takayama): เมืองเล็กๆ น่ารักที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนไม้เก่าแก่สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม และตลาดเช้าที่คึกคักไปด้วยของสดและงานฝีมือ
คานาซาวะ (Kanazawa): เมืองแห่งศิลปะและวัฒนธรรม ที่มีทั้งสวนสวยอย่าง Kenrokuen และย่านเกอิชาโบราณ ให้คุณได้เดินเล่นซึมซับบรรยากาศ
การเดินตลาดเช้าและย่านเมืองเก่าจะทำให้คุณได้สัมผัสญี่ปุ่นในมุมที่แตกต่าง และเก็บเกี่ยวความทรงจำอันแสนอบอุ่นกลับบ้านไปแน่นอน
6. สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นแท้ๆ ในเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่นไม่ได้มีดีแค่ทิวทัศน์สวยๆ แต่หลายเมืองยังจัด เทศกาลท้องถิ่น เล็กๆ เพื่อต้อนรับฤดูนี้ นี่คือโอกาสทองที่คุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้งและน่าประทับใจ
งานประดับไฟ (Light-up events): เมื่อยามค่ำคืนมาเยือน สวนสวยและวัดเก่าแก่จะถูกเนรมิตให้สว่างไสวด้วยแสงไฟที่ส่องกระทบใบไม้หลากสี สร้างบรรยากาศโรแมนติกราวกับหลุดเข้าไปในความฝัน เป็นอีกมุมมองของใบไม้เปลี่ยนสีที่คุณต้องไม่พลาด!
พิธีชงชา (Tea Ceremony) กลางแจ้ง: ลองจิบชาเขียวร้อนๆ ในสวนญี่ปุ่นที่รายล้อมด้วยใบไม้สีสันสดใส บรรยากาศเงียบสงบและพิธีการที่งดงาม จะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมชาญี่ปุ่นอย่างแท้จริง
เทศกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต: สัมผัสวิถีชีวิตชนบทและลิ้มรสผลไม้ พืชผักสดใหม่ตามฤดูกาลที่ชาวบ้านนำมาจำหน่าย เป็นการเฉลิมฉลองความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่คุณจะได้เป็นส่วนหนึ่ง
ตั้งแต่ชมวิว ลิ้มรสอาหาร แช่ออนเซ็น ไปจนถึงสัมผัสวัฒนธรรม ทุกอย่างลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ใครยังไม่เคยไปต้องลองสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักฤดูใบไม้ร่วงของญี่ปุ่นแบบถอนตัวไม่ขึ้น
📌 ถ้าอยากให้ทริปนี้พิเศษที่สุด…ลองเลือกทัวร์ส่วนตัวหรือเที่ยวแบบจัดเส้นทางเฉพาะของคุณเอง แล้วคุณจะได้เห็นญี่ปุ่นในมุมที่ใช่ ในเวลาที่พีคที่สุด
“เที่ยวญี่ปุ่นอุ่นใจ ไปกับสยามซานต้า บริษัทที่รวบรวมข้อมูลการเดินทาง และความสะดวกสบายครบคันมาให้คุณจบครบในที่เดียว และบริการสิทธิพิเศษอีกมากมาย”